กรรมวิธีการล้างอย่างมีมาตรฐาน

1. การล้างขั้นตอนและวิธีการล้าง
1) นำรถเข้าช่องล้าง (VIP) ทำการพ่นน้ำใต้ท้องรถและฉีดน้ำไล่ฝุ่นละอองออกโดยเฉพาะใต้ท้องรถ
2) ทำการล้างล้อก่อนโดยเฉพาะรถที่ใช้ล้อแม็กจะต้องล้างให้สะอาด โดยใช้น้ำยาล้างล้อประมาณ 1 ฝาผสมกับน้ำ 1 ถัง แล้วใช้ฟองน้ำตะข่าย แปรง เป็นอุปกรณ์ในการล้างล้อ
3) ใช้น้ำฉีดคราบสกปรกที่เกิดจากการล้างล้อทั้ง 4 ล้อออกให้หมด
4) ใช้โฟมล้างรถฉีดให้รอบคัน (ในกรณีใช้โฟมสามสี)
5) ใช้ฟองน้ำล้างรถโดยเฉพาะประมาณ 2 อัน อันหนึ่งใช้ล้างส่วนบนอีกอันใช้ล้างส่วนล่างของรถ ทำการเช็ดถูเบาๆ รอบคันรถ
6) เสร็จแล้วฉีดน้ำไล่โฟมออกให้หมดแล้วจึงนำรถไปช่องเช็ดแห้ง
7) ใช้ผ้าชามัวซับน้ำ แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำที่เหลือ
8) เสร็จแล้วใช้สายลมเป่าไล่น้ำที่ยังตกค้างอยู่ตามซอกตามมุมออกให้หมดแล้วใช้ผ้าเช็ด
9) ทำการดูดฝุ่นภายในให้ทั่ว โดยเฉพาะตามซอกพรมเบาะให้สะอาด เสร็จแล้วใช้แว็กทาเคลือบในส่วนที่เป็นคอนโซนหน้ารถ แผงประตูหรือส่วนที่เคลือบแว็กได้ให้สะอาด
10) ให้เช็ดกระจก, ลงแว็กยางรองพื้นรถและแว็กยางที่ล้อรถทำพร้อมๆ กับทำภายในให้เรียบร้อย
11) เสร็จแล้วให้ Front man ตรวจสอบงานก่อนส่งมอบรถ
หมายเหตุ การที่ลูกค้าล้างสี + ดูดฝุ่นจะไม่มีการลงแว็กภายในรถแต่จะใช้ผ้าเช็ดฝุ่นตามคอนโซนใช้เวลาในการ ทำไม่ควร เกิน 30 นาที รวมกับการล้างด้วย
2. การล้างห้องเครื่อง ขั้นตอนและวิธีการทำ

1) เปิดฝากระโปรงหน้ารถ ใช้พัดลมเป่าให้เครื่องเย็นลง
2) สังเกตุดูว่าจะต้องใช้ถุงพลาสติกคลุมส่วนไหนบ้างอาทิ เช่น จานจ่าย, ใส้กรองอากาศ (แบบเปลือย) กล่องไฟซีนอล,ท่อดูดอากาศ และสิ่งที่คิดว่าเป็นอันตรายต่อการล้างห้องเครื่อง
3) ฉีดน้ำเป็นละอองฝอยให้ทั่วเครื่องยนต์
4) นำน้ำยาล้างห้องเครื่องพ่นตามจุดที่เปื้อนคราบน้ำมันและคราบสิ่งสกปรก
5) ใช้แปรงปัดตามซอกมุม และฟองน้ำตาข่ายขัดในส่วนที่สกปรกมาก ล้างจนเห็นว่าสะอาด
6) ทำการล้างใต้ฝากระโปรงโดยใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด
7) ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยหรือละอองเพื่อชำระคราบน้ำยาที่ล้างออกจากเครื่องยนต์ (อย่าฉีดน้ำแรงเกินไป)
8) ถอดถุงพลาสติกที่ใช้ปิดอุปกรณ์ออก แล้วทำการล้างและทำความสะอาดรถ
9) หลังจากที่ทำความสะอาดรถแล้ว นำสายลมมาเป่าตามซอกตามมุมที่มีน้ำขังอยู่ไล่น้ำออกให้หมด ที่สำคัญถอดปลั๊กหัวเทียนออกมาเป่าให้แห้ง
10) นำน้ำยาเคลือบเงาห้องเครื่อง ฉีดพ่นให้ทั่วเครื่องยนต์ โดยเฉพาะตามจุดที่เป็นยางและแสตนเลส เพื่อให้เกิดความเงา และใช้แปลงปัดตามและใช้ผ้าเช็ดตามอีกครั้ง
11) เมื่อเคลือบเงาเสร็จแล้ว ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ ถ้าเครื่องยนต์เกิดอาการสะดุดให้เช็คที่จานจ่ายหรือหัวเทียนว่ายังเปียกชื้นอยู่ให้ทำซ้ำในขั้นตอนที่ 9
12) ทำการตรวจสภาพรถโดยรอบอีกครั้งก่อนส่งมอบลูกค้า
2) สังเกตุดูว่าจะต้องใช้ถุงพลาสติกคลุมส่วนไหนบ้างอาทิ เช่น จานจ่าย, ใส้กรองอากาศ (แบบเปลือย) กล่องไฟซีนอล,ท่อดูดอากาศ และสิ่งที่คิดว่าเป็นอันตรายต่อการล้างห้องเครื่อง
3) ฉีดน้ำเป็นละอองฝอยให้ทั่วเครื่องยนต์
4) นำน้ำยาล้างห้องเครื่องพ่นตามจุดที่เปื้อนคราบน้ำมันและคราบสิ่งสกปรก
5) ใช้แปรงปัดตามซอกมุม และฟองน้ำตาข่ายขัดในส่วนที่สกปรกมาก ล้างจนเห็นว่าสะอาด
6) ทำการล้างใต้ฝากระโปรงโดยใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด
7) ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยหรือละอองเพื่อชำระคราบน้ำยาที่ล้างออกจากเครื่องยนต์ (อย่าฉีดน้ำแรงเกินไป)
8) ถอดถุงพลาสติกที่ใช้ปิดอุปกรณ์ออก แล้วทำการล้างและทำความสะอาดรถ
9) หลังจากที่ทำความสะอาดรถแล้ว นำสายลมมาเป่าตามซอกตามมุมที่มีน้ำขังอยู่ไล่น้ำออกให้หมด ที่สำคัญถอดปลั๊กหัวเทียนออกมาเป่าให้แห้ง
10) นำน้ำยาเคลือบเงาห้องเครื่อง ฉีดพ่นให้ทั่วเครื่องยนต์ โดยเฉพาะตามจุดที่เป็นยางและแสตนเลส เพื่อให้เกิดความเงา และใช้แปลงปัดตามและใช้ผ้าเช็ดตามอีกครั้ง
11) เมื่อเคลือบเงาเสร็จแล้ว ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ ถ้าเครื่องยนต์เกิดอาการสะดุดให้เช็คที่จานจ่ายหรือหัวเทียนว่ายังเปียกชื้นอยู่ให้ทำซ้ำในขั้นตอนที่ 9
12) ทำการตรวจสภาพรถโดยรอบอีกครั้งก่อนส่งมอบลูกค้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น