วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

การเคลือบสี


 การเคลือบสี
        รถยนต์ทุกคันมีอายุการใช้งานของสี ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดงหรือรถเก่าที่ใช้แล้ว ผู้ใช้บางคนยังไม่ทราบถึงความสำคัญของการเคลือบสี เพราะถ้าหากใช้รถไปนานวันแต่ไม่มีการดูแลรักษา สีรถก็จะดูหมอง เก่าด้านและสีแตกก่อนเวลาอันควรดังนั้น การเคลือบสีรถยนต์จึงมีบทบาทที่สำคัญที่จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของสีที่เกิดจากความร้อนจากแสงแดด ความร้อนจากห้องเครื่อง คราบมูลนก น้ำค้างยางไม้ ยางมะตอย ซึ่งผลิตภัณฑ์เคลือบสีรถในตลาดนั้นมีมากมายหลายยี่ห้อ แต่ที่สำคัญเคมีเคลือบสีรถเหล่านั้น ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะน้ำมันเปรียบเหมือนเชื้อเพลิงที่เร่งการเผาไหม้บนสีรถให้เร็วขึ้น 
โดยปกติรถป้ายแดงจะมี wax เพิ่มความเงางามของสีรถอยู่แล้ว และจะมีฟิล์มแล็คเกอร์บางๆ คอยปกป้องชั้นผิวสีของรถมาระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถป้องกันริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดจากเศษเม็ดทราย, กิ่งไม้, ที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงที่ท่านรัก เป็นต้น ดังนั้นวิวัฒนาการ การปกป้องหรือช่วยลดระดับความเสียหายจากหนักให้เป็นเบาจึงเกิดขึ้นนั้นก็คือ การเคลือบด้วยสารโพลีเมอร์ (สารเคลือบแข็ง) ทำหน้าที่สร้างฟิล์มบางๆ บนหน้าแล็คเกอร์อีก 1 ชั้น เพื่อปกป้องการเกิดริ้วรอยต่างๆ ได้อย่างชัดเจน 
ขั้นตอนและวิธีการทำ
1) ล้างรถด้วยโฟมให้สะอาด
2) ทำการเช็คแห้งให้ทุกขั้นตอนของกรรมวิธีเช็ดแห้ง
3) ใช้ฟองน้ำที่ใช้สำหรับเคลือบโดย (เฉพาะ) เคลือบเท่านั้น
4) เทน้ำยา (ที่ลูกค้าเลือกใช้) ลงบนฟองน้ำ
5) ทำการเคลือบที่ฝากระโปรงหน้ารถก่อน
6) เมื่อเคลือบโดยรอบคันแล้วทิ้งไว้ให้น้ำยาแห้ง (ขึ้นเป็นคราบสีขาว)
7) เมื่อแห้งแล้วใช้ผ้าที่ใช้สำหรับเคลียร์แว็กเช็ดออก (ควรเช็ดเบาๆ)
8) เมื่อเช็ดแว็กออกหมดแล้วใช้แปรงสีฟัน (ขนอ่อน) ขัดคราบแว็กที่หลงเหลืออยู่ตามซอกมุมของรถ
9) ใช้ลมและผ้าสะอาดไล่ฝุ่นละอองที่ติดอยู่ออกโดยรอบคัน
10) ตรวจสอบคราบแว็กอีกครั้งแล้วนำผ้าคลุมรถมาคลุมไว้ ก่อนส่งมอบรถ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น